1 เลือกเวลาเดินทาง
ใครจะคิดว่าแค่การเลือกเวลาออกจากบ้าน จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้ แต่มันทำได้จริง
เพราะในวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ช่วงเช้าและเย็น เป็นช่วงที่มีรถติดมหาศาล การเดินทางในช่วงเวลานี้
จะทำให้คุณไปติดแหงกอยู่บนท้องถนน ซึ่งยิ่งติดคาอยู่บนถนนนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมัน
มากเท่านั้น ดังนั้น ตื่นเช้าขึ้นอีกสักนิด ออกจากบ้านก่อนเวลา
เพื่อหลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้
2 ขับรถอย่างนิ่มนวล
สิ่งที่ต้องทำเพื่อ การประหยัดน้ำมัน อันดับแรกเลยก็คือ การไม่ขับรถกระโชกโฮกฮาก ไม่เหยียบเบรกถี่ๆ
เพราะการเหยียบเบรกบ่อยๆ และการเหยียบคันเร่งแรงๆ จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนัก
และใช้พลังงาน มากขึ้นนั่นเอง เราควรขับรถอย่างนิ่มนวล ใช้ความเร็วคงที่ สม่ำเสมอ และไม่ขับรถเร็วเกินไป
3 ไม่เร่งเครื่องแรงๆ
การเร่งเครื่องจน มิดนั้น จะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงาน มากขึ้น เช่น ขณะขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา
คุณเร่งเครื่องเพราะขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ ลากเกียร์เอาไว้อีกสักหน่อย
ทำให้มีความสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง แต่หากเป็นรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ
ระบบเกียร์จะปรับเปลี่ยนอย่ างเหมาะสม ไปต ามความเร็วที่คุณใช้ ซึ่งแน่นอนว่าเกียร์อัตโนมัติทำได้ดีกว่า
การขับรถด้วยเกียร์ธรรมดาของคนแน่นอน แต่แม้ว่าระบบเกียร์จะดีอย่างไร
การเร่งเครื่องพร่ำเพรื่อก็ยังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ดี
ดังนั้น ขับรถให้นิ่มนวลโดยใช้ความเร็วสม่ำเสมอ ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นระบบเกียร์แบบใดก็ตาม
4 ปิดแอร์เมื่อใกล้ถึงที่หมาย
เมื่อขับรถยนต์ใกล้ถึงที่หมาย ให้คุณปิดระบบปรับอากาศของรถยนต์ เพราะความเย็นยังคงอยู่
ในห้องโดยสารระยะหนึ่ง หลังจากปิดแอร์ไปแล้ว ไม่เพียงแต่เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนเท่านั้น
ระบบปรับอากาศในรถยนต์เองก็ใช้น้ำมันในการทำงานเช่นกัน
ดังนั้น การปิดแอร์ก่อนถึงที่หมายสัก 5 – 10 นาที ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันไปได้มากขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ หากคุณเดินทางเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก
การปิดแอร์แล้วใช้ลมธรรมชาติจากการเปิดหน้าต่างแทน ก็ช่วยประหยัดน้ำมันไปได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
5 ตรวจเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอ
รถยนต์ที่มีลมยางอ่อนเกินไป ยิ่งเดินทางไกลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปลืองน้ำมัน มากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ควรหมั่นตรวจเช็กลมย างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้
การเติมลมยางมากเกินไป อาจไม่ส่ งผลเรื่องการใช้พลังงาน มากนัก
แต่จะส่งผลเรื่องความปลอดภัยได้ เพราะยางที่แข็งเกินไป จะยึดเกาะถนนได้น้อยลงนั่นเอง
นอกจากนี้ ควรมองหาร่องรอยของการขูด รูรั่ว รอยบาด รอยแตกในยาง
รวมถึงตรวจสอบวันที่ผลิตของยชางด้วย หากพบว่ายางของคุณมีอายุเกินกว่า 6 ปี
คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนยางใหม่ก่อนที่จะใช้งานยางในระยะไกล
6 ไม่บรรทุกของหนักเกินไป
รถยนต์ต้องใช้พลังงาน มากขึ้น ในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะที่บรรทุกน้ำหนักมากๆ
ลองนึกถึงการเดินดูสิ การเดินโดยที่คุณถือของพะรุงพะรังมากมายนั้น ย่อมใช้พลังงาน
มากกว่าการเดินตัวเปล่าใช่ไหมล่ะ ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณลดภาระของรถยนต์ลง
ด้วยการทำความสะอาดรถ นำสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไปจากรถ เพื่อให้น้ำหนักของรถนั้นเบาลง
ช่วยให้ใช้พลังงานน้อยลง และประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นนั่นเอง
7 ปิดหน้าต่างและซันรูฟ ขณะใช้ความเร็วสูง
โดยทั่วไปรถยนต์ได้ถูกออกแบบให้ลดแรงต้านอากาศ หรือที่เรียกว่า แอโรไดนามิกตามหลักอากาศพลศาสตร์
ซึ่งมีประโยชน์ช่วยให้รถยนต์ ไม่ทำงานหนักมากขึ้นเท่าใดนักเมื่อใช้ความเร็วสูง
ดังนั้น การเปิดหน้าต่างหรือซันรูฟขณะที่ขับรถด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดแรงดึง
หรือแรงต้านอากาศเพิ่มสูงมากขึ้น ทำให้รถยนต์ทำงานหนักมากขึ้นในการเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
เป็นสาเหตุของการสิ้นเปลืองน้ำมันนั้นเอง และนี่คือวิธีประหยัดน้ำมันรถยนต์
ที่เราขอรับรองว่าได้ผลชัวร์ หากคุณผู้อ่านนำไปใช้ จะต้องมีเงินเหลือในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
ที่มา MoneyGuru, aanplearn