7 ผลไม้สำหรับคนเป็นโรคกระเพาะ กินอะไรได้บ้างที่จะช่วยแก้อาการแสบท้อง เคลือบกระเพาะให้หายปวด
อาการสำคัญของโรคกระเพาะอาหาร คือ จะแสบท้องไม่ว่าตอนหิวหรือตอนที่กินจนอิ่มแล้วก็ตาม
ซึ่งความแสบท้องนี่แหละที่สร้างความทรมานให้กับเรา บางคนถึงกับต้องควานหาของกินรองท้อง
เพื่อช่วยเคลือบกระเพาะ บรรเทาอาการกันเลยทีเดียว ทว่ากินอาหารรองท้องวันละหลายครั้งก็อาจจะอิ่มเกินไป
งั้นลองมากินผลไม้เคลือบกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการแสบท้องจากโรคกระเพาะกันไหม
ส่วนจะมีผลไม้เพื่อสุขภาพสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะชนิดไหนบ้าง มาดูเลย
แต่ก่อนอื่นมาเช็กหน่อยว่าเราเป็นโรคกระเพาะอาหารจริง ๆ ไหม
เช็กอาการโรคกระเพาะ เราเป็นอยู่หรือเปล่า
โรคกระเพาะอาหาร หมายถึง แผลที่เกิดในเยื่อบุกระเพาะอาหารบริเวณที่สัมผัสกับน้ำย่อยของกระเพาะอาหาร
โดยแผลในกระเพาะอาหารก็เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ร่างกายต้านทานกรดของน้ำย่อยในกระเพาะอาหารได้ไม่ดี
ความเครียด พฤติกรรมรับประทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ กินข้าวไม่ตรงเวลา ไม่ครบมื้อหลัก
การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือแม้แต่การกินยาแก้ปวดประเภทแอสไพรินหรือยาแก้อักเสบเป็นประจำ
รวมไปถึงการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร (Helicobacter pylori หรือย่อว่า H.pylori)
จากการรับประทานอาหารที่มีเชื้อเข้าไปอยู่ในกระเพาะ และเชื้อนั้นเคลื่อนเข้าสู่เซลล์เยื่อบุกระเพาะอาหาร
ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้
ทั้งนี้ อาการโรคกระเพาะอาหาร ได้แก่
1. ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่แบบเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง
2. มักจะปวดท้องก่อนรับประทานอาหารหรือหลังรับประทานอาหารไปแล้ว
3. หากมีแผลบริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น มักจะมีอาการปวดท้องหลังอาหาร 1-3 ชั่วโมง หรือปวดท้องขณะท้องว่าง
4. มีอาการปวดท้องมากขึ้นในช่วงบ่าย ช่วงเย็น หรือดึก ๆ แต่อาการจะทุเลาเมื่อรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือกินยาลดกรด
5. มีอาการปวดแสบ จุกแน่น คลื่นไส้ เรอเปรี้ยว ซึ่งอาจทำให้สับสนระหว่างโรคกระเพาะอาหารกับโรคกรดไหลย้อนได้
ผลไม้เคลือบกระเพาะ กินอะไรดีเมื่อแสบท้องกระเพาะอาหาร หากมีอาการดังที่กล่าวมา สิ่งที่ควรทำก็คือ
ไม่รับประทานอาหารปริมาณมากเกินไปในมื้อเดียว แต่ให้กินน้อยลง และเพิ่มเป็นวันละ 4-5 มื้อ
รวมทั้งกินอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น ซึ่งผลไม้ที่จะช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้มีอะไรบ้าง มาดู
1. กล้วย
ประโยชน์ของกล้วยช่วยบรรเทาอาการโรคกระเพาะได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการนำสารแทนนินจากกล้วยดิบ
(ในรูปแบบผงกล้วยดิบชงดื่ม) มาช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร หรือการกินกล้วยน้ำว้า กล้วยหอมสุก
เพื่อให้ร่างกายได้รับใยอาหารชนิดละลายน้ำ ที่จะช่วยในการดูดซึมของผนังกระเพาะอาหาร
รักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ในกล้วยยังมีสารชนิดพิเศษที่ช่วยกระตุ้น
การแบ่งตัวของเซลล์ในกระเพาะอาหาร เสริมสร้างความแข็งแรงให้กระเพาะอาหารทนกรดได้ดีขึ้น
อีกทั้งในกล้วยยังมีทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่เมื่อกินเข้าไปแล้วร่างกายจะเปลี่ยนให้เป็นเซโรโทนิน
สารสื่อประสาทที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกตามธรรมชาติออกมาเคลือบแผลในกระเพาะ
ลดอาการแสบระคายท้อง และเซโรโทนินยังช่วยคลายเครียด ช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้นด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม คนเป็นโรคกระเพาะก็ไม่ควรกินกล้วยตอนท้องว่างนะคะ เพราะกล้วยมีคาร์โบไฮเดรต
ที่ร่างกายจำเป็นต้องย่อยเพื่อเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล ซึ่งร่างกายจะหลั่งน้ำย่อยออกมามาก
และอาจทำให้คนเป็นโรคกระเพาะหรือโรคกรดไหลย้อนอาการกำเริบได้
ดังนั้นถ้าจะกินกล้วยช่วยลดอาการโรคกระเพาะก็กินหลังมื้ออาหารจะดีกว่า
2. มะละกอ
มะละกอเป็นผลไม้ที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร อีกทั้งในมะละกอยังมีใยอาหารชนิดละลายน้ำได้
รวมไปถึงเบต้าแคโรทีน และวิตามินซี ที่มีส่วนช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ทำให้แผลหายเร็ว ป้องกันการติดเชื้อ และมะละกอยังช่วยในการขับถ่ายได้อีกด้วย
3. แอปเปิล
ถ้าอยากได้เพกตินมาเคลือบกระเพาะอาหาร เสริมภูมิต้านทานให้เยื่อบุกระเพาะทนต่อกรดจากน้ำย่อยได้
งั้นกินแอปเปิลบรรเทาอาการแสบท้องจากโรคกระเพาะอาหารได้เลย
4. แคนตาลูป
แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันเยื่อบุกระเพาะอักเสบ เร่งให้แผลในกระเพาะอาหารหายเร็วขึ้นได้
อีกทั้งในแคนตาลูปยังมีวิตามินซีอยู่ไม่น้อย จึงเป็นผลไม้ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะอาหารได้ด้วย
5. ฝรั่ง
ฝรั่งมีสารแทนนินมาก อีกทั้งในผลสุกของฝรั่งยังมีใยอาหารชนิดเพกตินสูง มีวิตามินซีสูง
เรียกได้ว่ารวมสารอาหารสำคัญที่ช่วยดูแลกระเพาะอาหารของเราได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น การกินฝรั่งจึงช่วยสมานแผลและลดอาการอักเสบของกระเพาะอาหารและลำไส้ได้
6. ลูกยอ
นอกจากลูกยอจะมีสรรพคุณเด่นในเรื่องช่วยรักษาอาการกรดไหลย้อนแล้ว
สารในลูกยอยังช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลในกระเพาะอาหาร
ลดอาการอักเสบเฉียบพลันของกระเพาะอาหารจากแอลกอฮอล์ และแม้การกินผลลูกยอสด ๆ
จะค่อนข้างกินยาก แต่ปัจจุบันก็มีแคปซูลลูกยอที่รับประทานง่ายกว่าให้เลือกกินหลายยี่ห้อเลยล่ะค่ะ
7. มะขามป้อม
มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงกว่าส้มประมาณ 20 เท่า นอกจากนี้มะขามป้อมก็เป็นผลไม้ที่มีรสฝาด
ขม มีสรรพคุณรักษาแผลและลดกรดเกินในกระเพาะอาหาร อีกทั้งน้ำมะขามป้อมยังช่วยบรรเทาอาการเสียดท้องได้อีกด้วย
ผลไม้ที่ควรเลี่ยง เมื่อเป็นโรคกระเพาะอาหาร
ผลไม้ที่คนเป็นโรคกระเพาะอาหารหรือมีแผลในกระเพาะอาหารไม่ควรกินก็คือ
ผลไม้รสเปรี้ยว อย่างส้ม มะขาม มะนาว มะยม และผลไม้ที่มีกรดเยอะ เช่น สับปะรด
ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงผลไม้หมักดองทุกชนิด
อาทิ ฝรั่งดอง ฝรั่งแช่บ๊วย มะม่วงดอง มะดันดอง มะปรางดอง องุ่นดอง รวมไปถึงผลไม้แช่อิ่มทุกชนิดด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลเปาโล
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ อภัยภูเบศร ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล