การกรน เกิดจากกล้ามเนื้อในคอคลายตัวขณะหลับ ทำให้ช่องคอแคบลงและส่งผลให้ต้องหายใจเข้าออกแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งเมื่อทางเดินหายใจแคบลงไปถึงจุดหนึ่ง ความแรงของลมหายใจก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
จนเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อภายในระบบทางเดินหายใจและทำให้มีเสียงกรนตามมา
6 วิธีแก้นอนกรน
1. ลดน้ำหนัก
ความอ้วนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการนอนกรนได้ เพราะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน
มักจะมีไขมันสะสมบริเวณช่องทางเดินหายใจ บริเวณคอและหน้าอก
ทำให้ช่องทางเดินหายใจเล็กลงและทำให้เราหายใจได้ลำบากมากขึ้น
ดังนั้นใครที่น้ำหนักเยอะและมีอาการนอนกรนก็ให้พยายามลดน้ำหนักให้ได้ อาการนอนกรนก็จะดีขึ้นค่ะ
2. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายสามารถทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายแข็งแรง รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณช่องทางเดินหายใจด้วยค่ะ
ดังนั้นหากใครที่มีปัญหานอนกรนจากกล้ามเนื้อหย่อนก็ให้ลองเริ่มออกกำลังกายก่อนค่ะ
3. เพิ่มความชื้นในห้องนอน
การเพิ่มความชื้นในห้องนอนก็มีส่วนช่วยได้ค่ะ เพราะหากห้องนอนมีความชื้นต่ำ
อากาศภายในห้องก็จะแห้งและสามารถส่งผลให้เยื่อบุต่าง ๆ ในบริเวณระบบทางเดินหายใจแห้งตามไปด้วย
ซึ่งในบางรายก็อาจจะเกิดอาการบวมและทางเดินหายใจตีบแคบและเกิดเป็นการนอนกรนในที่สุดค่ะ
ดังนั้นก็แนะนำให้ลองเพิ่มความชื้นในห้องนอน
โดยอาจจะใช้ขวดบรรจุน้ำและเปิดเอาไว้ หรือว่าใช้เครื่องพ่นไอน้ำเพื่อช่วยเพิ่มความชื้นในห้องนอนค่ะ
4. ปรับท่านอน
การนอนหงายก็เป็นสาเหตุให้นอนกรนได้มากกว่าท่านอนอื่น ๆ ค่ะ
ดังนั้นก็ให้ลองปรับท่านอนดูใหม่ โดยอาจจะเปลี่ยนเป็นการนอนตะแคง
ก็จะช่วยให้เราหายใจได้ดีมากขึ้น เพราะการนอนตะแคงสามารถช่วยป้องกัน
ไม่ให้กล้ามเนื้อในคอหย่อนลงมาปิดกั้นทางเดินหายใจค่ะ
5. นอนด้วยหมอนที่ยกศีรษะสูง
เช่นเดียวกันการนอนตะแคงค่ะ หากนอนหงานแล้วเรามีอาการกรน
ก็ให้ลองเปลี่ยนมานอนด้วยหมอนที่สูงขึ้น หรืออาจจะใช้หมอนเล็ก ๆ
หนุนที่บริเวณด้านหลังคอเพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อหย่อนลงไปที่ลำคอจนเกิดเสียงกรนได้ค่ะ
6. รักษาที่นอนให้สะอาด
พยายามกำจัดสิ่งที่อาจก่อให้เกิดพวกโรคภูมิแพ้ หอบหืด ไรฝุ่น ขนสัตว์และฝุ่นผงต่าง ๆ
ให้หมดไปจากห้องนอนของเราค่ะ เพราะสาเหตุของการกรนก็เกิดจากสิ่งเหล่านี้ได้เช่นกัน
เนื่องจากพวกสิ่งสกปรกสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองในคอ
รบกวนทางเดินหายใจและทำให้เราเป็นภูมิแพ้ได้ ดังนั้นการกำจัดพวกนี้ก็จะช่วยแก้การนอนกรนได้ค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก trueid.net