ตั้งกฎชัดไม่ให้ใครยืมเงิน
ในเมื่อตัดสินใจชัดเจนแล้วก็ต้องประกาศชัดๆ กันให้รู้ถ้วนหน้าว่าเราไม่ให้ใครยืมเงินเด็ดขาด
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักหรือญาติสนิทแค่ไหนก็ตาม และต้องไม่มีข้อยกเว้นในกรณีไหนหรือกับใครทั้งนั้น
ถ้ามีคนขอยืมเงินก็บอกไปตรงๆ ว่า นี่คือจุดยืนของเรา และเรารู้สึกไม่สบายใจถ้าให้ใครยืมเงิน
หรืออาจบอกไปเลยว่าไม่มีเงินให้ยืมจริงๆ
ขอเวลาตัดสินใจ
บางครั้งถ้าคนยืมเงินมากดดันเรามากๆ ยกสารพัดเหตุผลความจำเป็นมาอ้างเพื่อขอยืมเงินจากเรา
ตัวเราเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธทันทียังไง ก็ต้องซื้อเวลาไปซักนิด ขอเวลาตัดสินใจซักหน่อย
อาจจะให้คำตอบภายใน 1-2 วัน และใช้เวลานั้นไปหาคำตอบดีๆ มาปฏิเสธ
เสนอความช่วยเหลือรูปแบบอื่น
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าไม่ให้ยืมเงินแน่ๆ แต่ก็อย ากช่วยเหลือเพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่เดือดร้อน
ก็อาจเสนอวิธีช่วยเหลือแบบอื่นๆ แทน เช่น ถ้ามีความรู้เรื่องบริหารจัดการเงิน
ก็อาจช่วยดูต้นตอของปัญหาของคนๆ นั้น เพื่อแนะนำวิธีแก้ไข
และช่วยให้พวกเค้าสามารถหาเงินมาใช้ตามต้องการได้ หรือบางทีอาจชวนมากินข้าวที่บ้าน
หรือแบ่งอาหารไปให้บ้าง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าอาหารในบางวันก็ได้เหมือนกัน
ให้เงินเป็นของขวัญ
เมื่อไหร่ที่ให้คนอื่นยืมเงิน เราก็อย ากได้เงินคืนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าได้ดอกเบี้ยด้วยก็ดี
บางครั้งถึงจะตัดสินใจไม่ให้ยืม แต่ยังอย ากช่วยเหลือเรื่องเงิน เราก็อาจเลือกให้เงินเป็นของขวัญแทนก็ได้ เช่น
ในช่วงวันเกิดเพื่อน หรือเทศกาลพิเศษต่างๆ การทำแบบนี้นอกจากได้ให้เงินเพื่อนแล้ว
เราเองก็สบายใจ เพราะไม่จำเป็นต้องให้เงินก้อนเท่าที่ขอมา และไม่ต้องห่วงเรื่องทวงหนี้ทีหลังด้วย
อย่ าเปิดเผยการเงินส่วนตัว
มาถึงข้อสุดท้ายที่ควรทำอย่างยิ่งถ้าไม่อยากให้ใครมายืมเงินคือ ไม่ควรจะเล่าเรื่องเงินๆ ทองๆ
ส่วนตัวให้เพื่อนหรือญาติพี่น้องฟัง ถ้าใครถามว่าเงินเดือนเท่าไหร่ มีเงินเก็บแค่ไหน
ก็อาจบอกแค่ พอกินพอใช้ ไม่ต้องลงรายละเอียดมาก เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่าเรามีเงินเหลือเก็บเหลือใช้
เวลาเค้าลำบากก็อาจมายืมเงินเราก็ได้ ซึ่งพอถึงตอนนั้น เราอาจปฏิเสธได้ยาก หากใจไม่แข็งพอ