1. เวลา
คือ อีกสิ่งที่ไม่อาจหวนกลับมาไม่สามารถกักเก็บไว้ ไม่สามารถเรียกคืนได้ คนที่มักจะพูดว่า
ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้เพื่อรอเวลาที่จริงแล้ว เขาไม่มีเวลาให้รอด้วยซ้ำ เวลาจะไหลไปเรื่อยๆ
มันไม่หยุดรอให้ใคร อย่าคิดว่าอายุไขมนุษย์จะยาวนานเพียงหลับไปตื่นหนึ่ง ก็ถึงวันพรุ่งเสียแล้ว
ถ้าคำนวณอย่างละเอียด มนุษย์เรามีเวลาในโลกนี้น้อยมากน้อยจนเกินกว่าที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างดั่งใจ
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ที่ประสบความสำเ ร็จในชีวิต จึงไม่เคยหยุดนิ่งเพราะเขารู้คุณค่าของกาลเวลา
มันมีแต่จะหมดลงร่อยหรอ เขาจึงใช้ทุกเศษเสี้ยววินาทีอย่างมีคุณค่าที่สุด
2.คำพูด
แม้เป็นเพียงลมปาก แต่เมื่อหลุดออกไปไม่ว่าจะดีหรือร้าย มันก็ไม่สามารถเก็บกลับคืนได้คนที่รักษาคำพูดได้ดี
จึงเป็นคนที่น่ายกย่อง คำพูดมีอำนาจหลายอย่ าง ในสมัยพุทธกาล คนที่กล่าวแต่ความสัจ
จะมีปาฏิหาริย์ คือ มีวาจาประกาศิต ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็มีพงศาวดารกล่าวถึงพระร่วงเจ้า
ผู้มีวาจาประกาศิตอันที่จริงไม่มีใครรู้ว่าปาฏิหาริย์วาจาประกาศิตมีจริงหรือไม่ แต่ก็เป็นกุศโลบาย
สอนให้คนพูดแต่ความจริงเพราะหากกล่าวคำที่เป็นมิจฉาวาจาแล้ว จะไม่มีทางลบล้างได้ บางครั้ง
คำพูดเพียงสองสามคำ ก็ทำให้เกิดการแตกแยกได้
3. โอกาส
ราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ ที่หลายคนไม่เข้าใจ โอกาสเป็นธรรมดาโลก
ที่มักจะผ่านมาในชีวิตคนเราแต่คนส่วนใหญ่ละทิ้งไม่ใส่ใจรู้ไหมว่า
โอกาสก็เหมือนฟองสบู่ที่เราใช้หลอดจิ้มแล้วเป่าออกมาให้มันลอยคว้าง
โอกาสมักจะดูสวยงามและมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะมีเหตุผลกลใดที่ทำให้โอกาสเดินทางผ่านมาในชีวิตคนเราแต่จงรู้ไว้
มันอยู่ได้ไม่นาน ฟองสบู่ที่เราเป่าเล่น มันลอยคว้างสวยงาม แต่ไม่นาน มันก็จะแตกสลายหายไป