เสื้อแห่งความสุข นิทานธรรมะ เตือนสติในสิ่งที่คุณอาจลืมไป
มีเรื่องเล่าว่า พระราชาองค์หนึ่ง ทรงวิตกกังวลต่อความมั่นคงแห่งราชสมบัติ
ความวิตกนี้ได้กลายเป็นเรื่องติดแน่นฝังลึก ลุกลามเกาะกินจนเกิดความเครียด บรรทมไม่หลับ ทุกข์หนักถึงขั้นประชวร วันหนึ่งทรงได้รับคำแนะนำว่า
ถ้าจะแก้ความทุกข์นี้ให้ได้ จะต้องเอาเสื้อของคนที่มีความสุขที่สุดมาสวมใส่
จึงรับสั่งให้อำมาตย์ผู้หนึ่งไปแสวงหาเสื้อดังกล่าวนั้น แต่ไม่ว่าจะไปขอยืมจากเชื้ อพระวงศ์หรือขุนนางผู้ใหญ่คนไหน ๆ ก็ได้คำตอบเหมือนกันว่า
ตัวข้าพเจ้าแม้จะมีเงินทองและยศศักดิ์ถึงเพียงนี้แล้ว แต่ในชีวิตจริงก็หามีความสุขไม่
ในที่สุดก็จำต้องออกไปเสาะหาตามบ้านเรือนของราษฎร แต่คนทั้งหลายก็ตอบเหมือน ๆ กันอีกว่า ชีวิตนี้ยังไม่เคยมีความสุขจริง ๆ สักที อำมาตย์เริ่มท้อใจ ไม่คิดว่า คนมีความสุขจะหาได้ยากอย่างนี้ คงจะไม่ได้เสื้อที่ต้องการเป็นแน่
วันหนึ่ง ขณะที่อำมาตย์พาคณะไปสำรวจถึงนอกกำแพงเมือง จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงคนร้องตะโกนมาจากที่ไกลว่า
“มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขเหลือเกิน”
จึงสั่งให้ทหารรับใช้วิ่งไปทางเสียงนั้น พร้อมกำชับว่า ให้เอาเสื้อของมันมาให้ได้ ครู่เดียวทหารผู้นั้นก็วิ่งกลับมามือเปล่า แล้วรายงานว่า
คนที่ตะโกนว่า มีความสุขเหลือเกินนั้น ที่แท้เป็นขอทาน
อำมาตย์ผู้เป็นหัวหน้าคิดว่า ถึงเป็นเสื้อขอทานก็ต้องเอามาให้ได้ แล้วออกวิ่งไปยังที่นั้น แต่พอไปถึงก็ต้องยืนงงทำอะไรไม่ถูก เพราะขอทานผู้นั้นไม่มีแม้แต่เสื้อจะใส่
แต่ที่มีความสุขถึงกับตะโกนออกไป ก็เพราะวันนี้มีผู้ใจบุญให้อาหารกินอย่างดี จนอิ่มหนำสำราญเท่านั้นเอง
สำหรับมนุษย์ปุถุชนอย่างเรานี้ ยศศักดิ์ก็หมายปอง เงินทองก็จำเป็น จึงไม่มีเลยที่ไม่ไขว่คว้า เมื่อวิถีชีวิตเกี่ยวพันหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้ นานเข้าก็กลายเป็นความเคยชินติดแน่น
พอเอ่ยถึงความสุข ความนึกคิดก็แล่นไปที่เงินทองยศศักดิ์ก่อนอย่างอื่น ทำให้ลืมไปว่า ต่อให้มีสิ่งที่ต้องการครบถ้วนสารพัด ชีวิตก็หามีความสุขไม่ ถ้าไม่มีอีกสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง สิ่งนั้นคือคำว่า “พอ”
ที่มา dhammathai