โดยมหาลัยชื่อดัง มหาวิทยาลัยSurrey ทำวิจัยศึกษาเปิดเผยว่าคนที่ไม่ค่อยไปเที่ยวไหน หรือไม่ค่อยออกเดินทาง
มีโอกาส ป่วยเป็นโรคหัวใจ มากกว่าคนออกไปเที่ยว มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคุณได้เที่ยว สมองของคุณจะสั่งการ
และ เริ่มที่จะวางแผน หรือกำหนดการณ์ต่าง หากว่าทำสำเร็จตามที่ วางแผนไว้ด้วยล่ะก็ในการไปเที่ยวยิ่งทำให้ร่างกาย
จะผลิตฮอร์โมนโดพามีนทุกครั้งที่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น และจะทำให้รู้สึก ดีเหมือนประสบความสำเร็จอะไรบางอย่างในชีวิต
ดังนั้นนี้แหละคือเหตุผลว่า ทำไมการไปเที่ยวบ่อย ทำให้มีความสุขมากขึ้น และสุขภาพดีมาก ด้วย ตามข้อมูลในปี 2013
จากการสำรวจเพิ่มเติมพบว่า การออกเดินทางช่วยลด ” ความเครียด “ ได้ดีมาก หรือแม้กระทั่งคนที่ออกเที่ยวในที่ต่างๆ
ยิ่งถ้าไม่ซ้ำกันด้วยล่ะก็ยิ่งดี เหมือนได้ออกไปเปิดหูเปิดตาผจญภัยในสถานที่ใหม่ มีโอกาสเป็น ” โรคซึมเศร้า “ น้อยกว่า
คนที่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว ในส่วนที่ถ้าคุณ ไม่ได้ไปเที่ยวติดกัน หลายปี มีโอกาสที่ 30 เปอร์เซนต์จะเป็น
” โรคหัวใจ “ ต่างจากผู้ที่ออกเดินทางเที่ยวบ่อย กลับมีอัตราการเป็น ” โรคหัวใจ “ ต่ำกว่ามาก เพราะเหตุผลที่ว่า
คนไปเที่ยวต้องเดินทางไกล ยิ่งเดินทางยิ่งเหนื่อยเหมือนได้ ออกกำลังกาย แถมทำให้รู้สึกตื่นเต้นเพราะมีสิ่งใหม่รออยู่
ในการไปเที่ยวทุกครั้งโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบลุยก็ยิ่งทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงดีขึ้นไปอีก
จะให้พูดง่าย ก็เพราะว่า คุณไปเที่ยวนั้นเหมือนการออกกำลังการมาก เพราะคุณจะได้ขยับร่างกายมากกว่าปกติ
แถมยังสนุกกับช่วงเวลาไปตลอดทาง ทำให้สุขภาพทางกายและจิตดีขึ้นมากกว่าคนที่อยู่แต่บ้าน หรือทำอะไรซ้ำเป็นกิจวัตรประจำ
หากว่าคุณยังมีแรงยังมีกำลังอยู่นั้น ยิ่งต้องไปเที่ยวใหญ่ เพราะร่างกายนั้นยิ่งใช้ยิ่งแข็งแรง
การไปท่องเที่ยวจึงได้อะไรมากกว่าที่คิดออกไปเที่ยวซะบ้าง แล้วจะได้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอนและสถานที่
ที่เหมาะกับการไปเที่ยวเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติคือ ทะเล และ ป่าเขา
โดยให้เหตุผลไว้ดังนี้ ในทางจิตวิทยา นอกจากสีเขียวที่เรามักจะเห็นอยู่ในสัญลักษณ์ต่างที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น
และ ปลอดภัย แล้ว ขณะเดียวกันสีฟ้าของน้ำทะเลก็ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
จากการวิจัยพบว่ายิ่งได้มองเห็นพื้นที่สีฟ้ามากเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นสีของน้ำทะเล สีเขียวจากป่าเขา ธรรมชาติ
หรือ สีฟ้าจากท้องฟ้า ก็จะยิ่งมีสุขภาพจิตที่ดีมากเท่านั้นบริเวณที่ชุ่มชื้นอย่าง ชายฝั่งทะเล
แม่น้ำลำธาร หรือ น้ำตก จะมีประจุไฟฟ้าลบลอยอยู่ในอากาศ
เมื่อกระทบร่างกาย จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสาร เซโรโทนิน ทำให้เรารู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และ สดชื่นเสียง
คลื่นกระทบชายหาด เสียงลม และ เสียง สัตว์ป่าในธรรมชาติเป็น เสียง ที่ไม่ได้มีการจัดวางแพทเทิร์นไว้
แต่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ออกมาบนความหลากหลายเกินคาดเดา เป็นเสียงเบา ที่มีโทน เสียงปานกลางถึงต่ำ
ทำให้เรารู้สึกสงบทุกครั้งที่ได้ยืนฟังเสียง คลื่นจึงไม่แปลกเลยที่ร่างกายของเราจะเรียกร้องให้ออกห่างจาก
ความวุ่นวายในตัวเมือง หลีกหนีจากป่าคอนกรีต แล้วเดินทางเข้าป่าเขาและ ทะเล เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย
ขอบคุณแหล่งที่มา bitcoretech