มีใครชอบเที่ยวบ้างมั้ยคะเพื่อนๆ เท่าที่สังเกตดูบางคนก็ชอบเที่ยงภูเขา บางคนชอบไปทะเล
บางคนแค่ไปนั่งพักชิลๆในที่ที่มีต้นไม้ใบหญ้าเยอะๆ มีน้ำไหลผ่านก็พอแล้ว
แต่วันนี้เราจะเอาข้อดีของการไปเที่ยวทะเลมาฝากกันจ้า เพราะทะเลคือที่เที่ยวอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
ที่ทุกคนนึกถึงเวลามีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ บางคนอกหกก็ไปทะเล เครียด เหนื่อยก็ไปทะเล
คุณเคยถามตัวเองไหม ว่าทำไมต้องอยากไปทะเลทุกครั้งที่มีปัญหา ส่วนหนึ่งมันคือการ
ได้พักผ่อนคลายร่างกาย แต่อีกด้านหนึ่งเราจะบอกเหตุผลว่าเพราะ อะไร ทำไมทะเลถึงช่วยเยียวยาจิตใจคุณได้
1.ได้สัมผัสกลิ่นไอของทะเล
ในบริเวณที่ชุ่มชื้นอย่างชายฝั่งทะเล หรือน้ำตก จะมีประจุไฟฟ้าลบอยู่ ในกลิ่นไอของทะเลมาก
เมื่อแทรกซึมเข้าสุ่กระแสเลือด จะไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเซโรโทนิน ทำให้เรารู้สึกสงบและ ผ่อนคลาย สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า
2.เสียงคลื่นซัดสาดชายฝั่ง
ไม่ใช่แค่ความเพลิดเพลินเมื่อได้ฟังเสียงคลื่นกระทบ แต่เสียงที่ไม่ได้มีการจัดวางแพทเทิร์นไว้
แสดงออกมาบนความหลากหลายเกินจะคาดเดาเสียงคลื่นทะเล จะเป็นเสียงเบา ๆ ที่มีโทนเสียงปานกลางถึงต่ำ
นอกจากนี้ เสียงของทะเลให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย ราวกลับกำลังโอบกอดเราไว้
3.การได้มองเห็นที่โล่ง ๆ สีฟ้า
ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่เชื่อลองแหงนมองท้องฟ้าดูสิ เช่นเดียวกันกับท้องทะเลที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
จากการศึกษาประชากรในเมืองเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ พบว่า ยิ่งได้เห็น หรืออยู่ที่โล่งสีฟ้า (blue space) มากเท่าไหร่
ก็จะมีสุขภาพจิตที่ดีมากเท่านั้น นอกจากนี้จากการสำรวจยังพบว่า คนส่วนใหญ่ทั้งหญิงและชาย ชื่นชอบสีฟ้าหรือสีน้ำเงินมากกว่าสีอื่น ๆ อีกด้วย
4.แสงแดดอุ่น ๆ
ทะเลกับแสงแดดเป็นสิ่งที่คู่กัน แสงแดดที่ส่องกระทบผิวหนังของเรา จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตวิตามิน D
และสารเซโรโทนิน หรือสารเคมีแห่งความสุขออกมาในสมอง ทำให้เราผ่อนคลาย และรู้สึกดี
จากการศึกษาพบว่า สมองจะหลั่งสารเซโรโทนินออกมาในวันที่มีแสงแดดมากกว่าวันที่มีฟ้าครึ้ม
มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้เปิดเผยว่า แสงแดดสามารถทำให้คนล้มเลิกความคิด
ที่จะทำร้ายตัวเองได้ หากรู้ตัวตั้งแต่เนิ่น และออกไปข้างนอกให้ร่างกายได้รับแสงแดดเป็นประจำ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ “ภาวะซึมเศร้าฤดูหนาว” (seasonal affective disorder) ในประเทศเมืองหนาว
ที่ผู้คนจะต้องอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศที่หนาวเหน็บ ทำให้ไม่ได้รับแสงธรรมชาติ
ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้เช่นกัน ถ้าคุณต้องอยูท่ามกลางแสงแดดในเมืองที่รถติดและเต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้คน
คุณก็อาจจะไม่ได้หลั่งสารความสุขอย่างที่ควรจะเป็น
5.พลังแห่งสายน้ำ
นอกจากน้ำจะให้ความรู้สึกชุ่มชื่นแล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย
และยิ่งเป็นผืนน้ำที่ทอดกว้างออกไปจนสุดลูกหูลูกตาอย่างน้ำทะเล ก็จะยิ่งรู้สึกสงบและผ่อนคลายได้มากขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ก็เพราะว่า ตามทฤษฎี “Blue Mind” เมื่อเราอยู่ใกล้กับน้ำ ไม่ว่าจะอยู่บนน้ำ อยู่ในน้ำ หรืออยู่ใต้น้ำ
สมองจะสร้างสารโดปามีน เซโรโทนิน และออกซิโทซิน ซึ่งที่มีอิทธิพลต่อการทำงานของสมอง
ทำให้จิตใจสงบ คลายเครียด และช่วยลดระดับคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด
ขอขอบคุณข้อมูล board.postjun