หนี้…ที่ใช้ไม่หมดดูเหมือนเราจะมีเงิน แต่ควักออกมาซื้อของให้พ่อไม่ได้
ดูเหมือนเราจะมีเงิน แต่หมดไปกับสิ่งที่พ่อแม่ไม่เคยได้ใช่
ดูเหมือนเราจะมีเงิน แต่ไม่เคยหล่อเลี้ยงหัวใจของพ่อแม่
ดูเหมือนเราจะมีเงิน แต่กลับเลี้ยงดูพ่อแม่ไม่ได้
ดูเหมือนเราจะเก่ง แต่เก่งกับการตะคอกใส่พ่อแม่
ดูเหมือนเราจะเก่ง ลงกับคนอื่นไม่ได้ก็หาเรื่อง ทะเลาะกับพ่อแม่ดูเหมือนเราจะเก่ง อดทนกับคนอื่นได้แต่กับพ่อแม่อดทนไม่ได้
ดูเหมือนเราจะเก่ง จ้างคนอื่นทำได้แต่กับพ่อแม่เป็นดั่งคนรับใช้แต่ไม่ได้เงินเดือน
ดูเหมือนเราจะสูงส่ง อยู่นอกบ้านใช้เงินเหมือนพิมพ์แบงก์เองได้ แต่ไม่เคยหยิบยื่นให้พ่อแม่
ดูเหมือนเราจะสูงส่ง ชื่นชมครอบครัวคนอื่นไม่ ขาดปาก แต่ปรักปรำครอบครัวตนเองว่าไม่ดี
ดูเหมือนเราจะสูงส่ง พ่อแม่ทนทุกข์เพื่อลูกได้ แต่พอเราเจอความลำบากเพียงนิดหน่อยก็ละทิ้ง
ดูเหมือนเราจะสูงส่ง ยกมือไหว้คนอื่นไปทั่ว แต่รังเกียจพ่อแม่ของตนเองพ่อแม่ให้กำเนิดชีวิตอันล้ำค่า ทนทุกข์เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ยินยอมประหยัดกินประหยัดใช้ มีอะไรดีๆจะนึกถึงลูกเป็นอันดับแรกยินยอมอดสูใจตนเอง แต่ไม่ยอมให้ลูกได้อับอายรักโดยปราศจากเงื่อนไข ปราศจากความเห็นแก่ตัว
พระคุณบุพการี ตราบชั่วชีวิตนี้ก็ชดใช้ไม่หมด“ห้าม ลืม แม่ นะลูก” ในวันที่แม่แก่ตัวลงเมื่อตอนที่แม่ เริ่มออกเดินทางแม่ก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ผ่านคืนวัน มีความฝัน
มีชีวิตเป็นของตัวเอง เหมือนกับเรา แม่เดินทางมาเจอ ความรักมีชีวิตคู่ที่หวังจะสร้าง เป็นครอบครัว ผ่านวันที่ตื่นเต้นที่สุดคือวันที่ รู้ว่าใน ครรภ์ของแม่ มีเราอยู่ในนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของเวลากว่าเก้าเดือนที่แม่ต้องแบก น้ำหนักกว่าสิบกิโลกรัมแม่เริ่มใช้ชีวิต อย่างระมัดระวัง มากขึ้นแม่กลัวว่าลูกในท้องของแม่จะเป็นอันตรายและวันที่แม่เจ็บปวด แสน สาหัส ก็มาถึง
วันแรกที่แม่ ได้เห็นหน้าเรา“เต็มไปด้วย ความสุข แต่แม่ก็เจ็บปวด”ชีวิตส่วนตัวของแม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปความฝัน อาจถูกพักไปบ้าง แต่ก็เต็มใจข้าวของเครื่องใช้ลดลงเหลือ เท่าที่จำเป็น
รูปร่างหน้าตาที่ สวยงามของผู้หญิงคนหนึ่งไม่สำคัญเท่าลูก ของแม่อีกแล้ว“เรื่องอื่นๆ ของแม่ ช่างมันก่อนเถอะ”อนาคตของตัวเอง ที่แม่เคยคิดถึงถูกแทนที่ด้วย อนาคตของลูก จนหมดสิ้นเราจะปลอดภั ยไหม เราจะเป็นเด็ ก ดีหรือเปล่ าเราจะเรียนอะไร เราจะได้น้อยกว่าลู กคนอื่นไหม
แม่พยายามทุกอย่างให้เราได้รับสิ่งที่ดีที่สุดแม่เสกทุกอย่าง ให้เด็ กน้อยของแม่เติบโตอย่างดี“เหนื่อยนะ แต่แม่จะสู้” แล้วเราก็เติบโตแม่เริ่มพบกับความห่างเหินของลูก ที่เคยตัวเล็กแม่ไม่ได้เป็นเพื่อนเล่น ที่เราเคยสนุก ด้วยแล้ว
แม่เห็นใบหน้าที่ เราหงุดหงิดใส่มากขึ้นขณะเดียวกันก็เห็น รอยยิ้ม ที่แม่เคยได้รับแต่ผู้รับกลาย เป็นเพื่อนของเรา “น้อยใจ แต่ทำอะไรไม่ได้”วันที่แม่โล่งใจ อย่ างที่สุดคือ วันที่เราเรียนจบแม่ฝ่าฟั นมามากมายกว่า จะได้ปริญญาใบนี้มา
แม่คิดว่าหมดห่วงแล้ว ลูกเอ๋ยแต่ขณะที่แม่มองดูเราถ่ายรูป สนุกสนานกับเพื่อนบัณฑิตแม่ก็รู้ตัวว่า แม่คิด ผิ ด แล้ว ลู กจะได้งานที่ดีหรือเปล่ าลู กจะมีแฟนที่รักลู ก เหมือนที่แม่รักไหมเขาจะดูแลลู กอย่างที่ แม่ทะนุถนอมหรือเปล่าถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว ลูกจะอยู่ต่อยังไง“โตแค่ไหนแม่ก็เห็น ภาพเด็กตัวน้อยๆของแม่เสมอ”
ลูกของแม่ค่อยๆ ออกเดินทาง ในชีวิตของตัวเองเรามีครอบครัว มี ลูก มีบทบาทเพิ่มขึ้นจนบทบาท การเป็น ลู กของแม่ น้อยลงกว่าเดิมแม่รู้แล้วว่า ถึงเวลาต้องปล่อยวางลู กมีชีวิตของลู กแล้ว แต่แม่ไม่เคยวางได้เลย
แม่ยังรักและห่วงลู ก ของแม่เสมอ“อย่ าลืมแม่นะลู ก” แม่แก่ตัวลง พร้อมกับนับถอยหลัง การจาก ลาเป็นการเดินทางช่วงสุดท้าย ที่ต้องเผชิญความเสื่อมถอยสองแขนที่อุ้มลูก มาหลายปี ยกอะไรมากไม่ได้แล้ว
สองขาที่เคยพา ลูก ไปไหนต่อไหน ต้องใช้ไม้เท้าพยุงวาจาที่เคยเป็น เสี ยงกล่อมลู ก เริ่มพูดไม่รู้เรื่องส มองที่เคยใช้ ช่วยลู กให้เติบโต เริ่มลางเลือนหัวใจที่เคยสู้ฝ่า ฟั น ปัญหาให้ลูก บีบตัวน้อยลง
“แม่เหมือนก้อนน้ำแข็ง ที่วางตั้งอยู่กลางแดด”วันนี้ระหว่างที่เราเดินทางในชีวิตของเราลองหันไปมองหน้าแม่ ของเราให้เต็มตามองเข้าไปให้เห็นถึงการเดินทาง ที่ผ่ านมาของแม่วันนี้แม่เดินทางมาไกลมากแล้วขอแค่อย่าลืมการเดินทางที่ผ่านมาของแม่นี่เป็นการเดินทางของ ความรักที่วิเศษที่สุดแด่แม่และลู กของแม่ทุกคน เพราะคำพูดบางคำ เปลี่ยนชีวิตบางคน
ที่มา : postsread